จาก ปริเยศ
ถ้าไม่ใช่เพราะเทคโนโลยีทางการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ท ผมคงไม่มีโอกาสได้ สังสรรค์ทางปัญญา กับ ปกป้อง จันวิทย์ หรือ ปิ่น ปรเมศวร์ (ปกป้อง ภาค blogger) นักวิชาการหนุ่มผู้ปราดเปรื่องในสาขาเศรษฐศาสตร์ได้ เพราะปิ่น ปรเมศวร์ในช่วงเวลาที่สังสรรค์ทางปัญญากับผมและมิตรสหายชาว blog ปิ่นพำนักอยู่ ณ บ้านนอกสถาน คือสหรัฐอเมริกา ในขณะที่ผมพักอาศัยที่ปากเกร็ด ประเทศไทย ห่างกันคนละทวีป คนละช่วงเวลา คนละสภาพอากาศ และคนละสถานภาพทางสังคม
ปิ่นอยู่ในฐานะนักวิชาการหนุ่ม ว่าที่ดร.ทางเศรษฐศาสตร์ ผู้มีผลงานวิชาการเลื่องชื่อตั้งแต่วัยเยาว์ ส่วนผม ตำแหน่งพนักงานธรรมดาประจำองค์กรธุรกิจแห่งหนึ่ง ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับโลกที่เขาเรียกกันว่าหอคอยงาช้าง แม้แต่สักส่วนเสี้ยวเดียว แต่นั่นไม่ใช่อุปสรรคของการสังสรรค์ทางปัญญากับปิ่นและมิตรสหายท่านอื่นๆ
ผมเลือกใช้คำว่า สังสรรค์ทางปัญญา เพราะเป็นเช่นนั้นจริงๆ พวกเราถกกันด้วยการอ่านความคิดที่แตกต่างของ blog แต่ละฝ่ายด้วยความสนุกสนาน ไม่มีการโกรธขึ้งบึ้งตึง ยามอีกฝ่ายวิพากษ์ความคิดอีกฝ่ายด้วยความรุนแรง โดยเฉพาะคำวิพากษ์วิจารณ์ที่มาจากผม “ปริเยศ” ผู้ที่ไม่ต้องรอมชอม หรือรักษาหน้าตา รักษามิตรภาพทางวิชาการบนฐานความเกรงใจแบบไทยๆแต่อย่างใด
ปิ่น ปรเมศวร์ ไม่เพียงไม่โกรธ หรือไม่พอใจกับความเห็นที่ไม่ไว้หน้าใครของผม แต่กลับร่วมถกด้วยการผลิตงานเขียนคุณภาพสูง เพื่ออธิบายและหักล้างเหตุผล ผมถือว่านี่เป็นแสดงน้ำใจทางปัญญาอย่างสูงยิ่ง เพราะเป็นการให้ปัญญาแก่มิตรสหาย
ในฐานะที่ผมเป็นนักอ่านหนังสืออย่างฉกาจ งานเขียนของปกป้องเป็นงานเขียนที่ใช้องค์ความรู้หลายสาขาในการเข้าใจโลก อธิบายโลก และพยายามเปลี่ยนโลกให้ดีขึ้นด้วยสถานะ “นักวิชาการ”
องค์ความรู้ของปกป้องมิได้ตายตัวแบบสำนักคิดเศรษฐศาสตร์กระแสหลัก ที่มองมนุษย์และสถาบันทางสังคมเพียงมิติเดียว คือมิติแห่งการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวสูงสุด ปกป้องเห็นถึงมิติของความเป็นคน ความเป็นมนุษย์ที่ไม่ใช่ธำรงด้วยเหตุผลของการเป็นสัตว์เศรษฐกิจแต่เพียงลำพัง นอกจากนั้นงานเขียนของปกป้องยังเต็มไปอุดมคติที่มุ่งหวังจะสร้างสรรค์สังคมไทยให้ดีขึ้น ซึ่งอุดมคติประการหลัง ปกป้องได้แสดงให้เห็นอย่างโดดเด่นในช่วงรัฐบาลพรรคไทยรักไทยครองอำนาจสมัยแรกอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหวยหงส์ หรือเรื่องอื่นๆ
เมื่อปกป้องเปลี่ยนสภาพมาเป็น “ปิ่น ปรเมศวร์” ในภาค blogger งานเขียนยังคงคุณภาพและอุดมคติเช่นเดียวกับงานเขียนในภาค “ปกป้อง จันวิทย์” เพียงแต่ในงานเขียนภาค “ปิ่น ปรเมศวร์” หลายชิ้นเกิดจากการโต้กลับอย่างฉับพลันต่อประเด็นความเห็นของมิตรสหายที่ทิ้งคำวิจารณ์ใน blog ของเขา
ความสนุกสนานของการสังสรรค์ทางปัญญา อันมีปิ่นเป็นตัวเอกและตัวโหมโรง ได้ชักจูงมิตรสหาย bloggers ผู้ปราดเปรื่องในสาขาเศรษฐศาสตร์ สาขากฎหมาย ฯลฯ มาร่วมถกและสังสรรค์ร่วมกัน โดยที่หลายต่อหลายท่านไม่เคยเห็นหน้าและรู้จักกันมาก่อน
ผมคงไม่เขียนเกินเลยไปว่า หลังจากที่ “ปกป้อง” เป็น “ปิ่น ปรเมศวร์” เพียงไม่ถึง 2 สัปดาห์ ชุมชน bloggers ผู้ชอบสังสรรค์ทางปัญญาในประเด็นที่เรียกว่ากิจการบ้านเมืองและความรู้อื่นๆ ขยายตัวเพิ่มอย่างรวดเร็ว โดยมีปิ่นเป็นจุดศูนย์กลาง เช่นเดียวกัน ในสถานะ ปกป้อง จันวิทย์อาจารย์หนุ่มแห่งคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผมทราบว่าเขาเองเป็นจุดศูนย์กลางของนักวิชาการรุ่นใหม่ทางเศรษฐศาสตร์แห่งสำนัก ในการจุดไฟทางปัญญาและเคลื่อนไหวในประเด็นเพื่อประโยชน์ชาติบ้านเมือง และคงไม่เขียนเกินเลยเช่นกัน ว่าปิ่น ปรเมศวร์ หรือปกป้อง จันวิทย์ เป็นแรงบันดาลใจและความภูมิใจของลูกศิษย์สำนักท่าพระจันทร์ และมิตรสหายอื่นๆ ที่ได้สังสรรค์ทางปัญญาร่วมกับเขา
ไม่ว่าเขาจะอยู่ในภาคใด ... “ปิ่น ปรเมศวร์” หรือ “ปกป้อง จันวิทย์” ก็ตาม
0 Comments:
Post a Comment
<< Home